วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2567 27:41 น.
ประชาสัมพันธ์
Home >> ข่าวและกิจกรรม >> กอ.กทม.ลงนาม MOU กับ KTBST ส่งเสริมและพัฒนาการออมและการลงทุนที่ถูกต้องตามหลักชะรีอะฮ์
กอ.กทม.ลงนาม MOU กับ KTBST ส่งเสริมและพัฒนาการออมและการลงทุนที่ถูกต้องตามหลักชะรีอะฮ์

กอ.กทม.ลงนาม MOU กับ KTBST ส่งเสริมและพัฒนาการออมและการลงทุนที่ถูกต้องตามหลักชะรีอะฮ์

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2561 นายอรุณ บุญชม ประธานกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร ผศ.ดร.วิศรุต เลาะวิถี รองประธานกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร นายสมัย เจริญช่าง และคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร ได้ลงนาม MOU กับ KTBST บจก.หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) (มหาชน) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการออมและการลงทุนที่ถูกต้องตามหลักชะรีอะฮ์ พร้อมสนับสนุนให้ชาวมุสลิมที่มีความรู้และความเข้าใจบริการด้านการเงินสำหรับการวางแผนการเกษียณอายุตามหลักการศาสนาอิสลาม เพื่อสร้างประโยชน์ที่ดีแก่พี่น้องชาวมุสลิมในกรุงเทพมหานครและประเทศไทย

ดร.วิน  อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST  เปิดเผยว่า ตลอดช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา KTBST ให้ความสำคัญกับเรื่องการออมและการลงทุนของนักลงทุนมุสลิมในประเทศอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีบริการการลงทุน Islamic Wealth Management ที่คอยให้คำปรึกษาการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลาม พร้อมกับผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างๆ หลากหลาย เช่น การซื้อขายหุ้นตามหลักศาสนาอิสลาม (Islamic Equity Account)  การออมหุ้นอัตโนมัติ (Islamic Smart DCA) การลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์อัตโนมัติอัจฉริยะตามหลักศาสนาอิสลาม (Islamic Smart Algo)  กองทุนส่วนบุคคลตามหลักศาสนาอิสลาม (Islamic Private Fund) ตัวแทนซื้อขายกองทุนรวมตามหลักศาสนาอิสลาม (Selling Agent for Islamic Mutual Fund) เช่น Islamic LTF และ Islamic RMF เพื่อลดหย่อนภาษี รวมถึง กองทุนรวมตราสาร  ศุกูก (SUKUK)

ทั้งนี้ KTBST Islamic Wealth Management  มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้คำแนะนำ (AUA) อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า มีมุสลิมที่สนใจการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง KTBST จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องการขยายการให้ความรู้และสร้างประโยชน์แก่มุุสลิมที่ อยู่ในประเทศไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ที่มีความต้องการวางแผนทางการเงินแต่ยังขาดความเข้าใจหรือขาดผู้เชี่ยวชาญในการให้ความรู้ที่เป็นไปตามหลักศาสนาอิสลาม

ดร.วิน กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อพัฒนาการบริหารการเงินและสร้างประโยชน์แก่พี่น้องมุสลิมในกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 2 ล้านคน ทาง KTBST จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญที่มีบทบาทหน้าที่ในการพัฒนาสังคมของมุสลิมในกรุงเทพมหานคร

โดยมีจุดประสงค์หลักของความร่วมมือในครั้งนี้ คือ ส่งเสริมให้มุสลิมในกรุงเทพฯ ได้เข้าใจและเข้าถึงบริการทางการออมและการลงทุนที่ถูกต้องตามหลักชะรีอะฮ์และหลักกฎหมายทั่วไป รวมทั้ง สนับสนุนให้มีความรู้และความเข้าใจบริการด้านการเงินสำหรับการวางแผนการเกษียณอายุตามหลักศาสนาอิสลาม

“ผมในฐานะประธานกรรมการบริหารของ KTBST มีความยินดีที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร ให้ความสนใจในการพัฒนาเรื่องการออมและการลงทุนของมุสลิมในกรุงเทพมหานคร ผมมั่นใจว่าการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ จะสร้างประโยชน์ที่ดีแก่พี่น้องมุสลิมในกรุงเทพมหานครและประเทศไทยในเรื่องการบริหารการลงทุนได้อย่างมากครับ” ดร.วิน กล่าว

 นายอรุณ บุญชม ประธานกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในฐานะของสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร เรามีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นองค์กรหลักในการพัฒนามัสยิดและประชาคมมุสลิมในกรุงเทพมหานคร โดยยึดมั่นหลักธรรมาภิบาลและการดำเนินชีวิตตามวิถีอิสลามเพื่อประโยชน์สุขต่อสังคมไทย และมีหนึ่งในพันธกิจในเรื่องการเป็นองค์กรกลางเพื่อการพัฒนาของประชาคมมุสลิมในกรุงเทพมหานคร  ความร่วมมือกับ KTBST ในเรื่องการออมและการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลาม เป็นอีกหนึ่งมิติใหม่ของประเทศ ที่คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้

“จากความร่วมมือของทั้งสององค์กร เชื่อว่าจะเป็นก้าวที่สำคัญเพื่อการพัฒนาศักยภาพของมุสลิมในกรุงเทพมหานครเรื่องการออมการลงทุนที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ศาสนาอิสลามได้ส่งเสริม โดยมุ่งเน้นกลุ่มมุสลิมในกรุงเทพมหานคร  ตลอดจนอิหม่าม (ผู้นำศาสนาอิสลามประจำมัสยิด) คอเต็บ และบิหลั่น (เจ้าหน้าที่มัสยิด) กรรมการอิสลามประจำมัสยิด  สัปปุรุษ (มุสลิมที่ขึ้นทะเบียนประจำมัสยิด) ตลอดจนเยาวชนมุสลิม และที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งทั้งสององค์กรจะร่วมกันรณรงค์การให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องแชร์ลูกโซ่และกองทุนเถื่อน เพื่อป้องกันและการระวังไม่ให้มุสลิมในกรุงเทพมหานคร ถูกหลองลวงให้ไปลงทุนที่ผิดกฏหมาย” นายอรุณกล่าว

นายอิสเรศ มะหะหมัด ผู้อำนวยการฝ่าย Islamic Wealth Management  KTBST เปิดเผยว่า ทั้งสององค์กร ได้มีการพูดคุย กรอบแนวทางความร่วมมือกันไว้ในเบื้องต้นแล้ว ที่จะเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ที่สนใจการออมและการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามดังนี้

  • ร่วมกันจัดสัมมนาเรื่องกองทุน Islamic LTF/RMF เพื่อการลดหย่อนภาษีเงินได้และการออมการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ ให้แก่มุสลิมที่ทำงานในบริษัทต่างๆ อย่างน้อย ปี ละ 2 ครั้ง โดยจะมีการประสานไปยังบริษัทที่มีชมรมมุสลิม
  • ร่วมกันจัดสัมมนา ในการให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการออมการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลาม (หลักมุอามาลาต) ให้แก่มุสลิมในกรุงเทพมหานคร รวมถึงอิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น กรรมการอิสลามประจำมัสยิด นักศึกษา และบุคคลทั่วไป รวมทั้งการให้ความรู้การป้องกันการถูกลวงให้ลงทุนจากแชร์ลูกโซ่ อย่างน้อย ปีละ 4 ครั้ง
  • ร่วมกันประสานงานในการทัศนศึกษา เยี่ยมชมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษามุสลิม ในกรุงเทพมหานคร
  • KTBST ร่วมตั้งบูทในงานต่าง ๆ ของทางคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร เพื่อประชาสัมพันธ์บริการการออมการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลาม

นายวิศรุต เลาะวิถี รองประธานกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การลงนามความร่วมมือของทั้งสององค์กร และจากกรอบการดำเนินงานที่จะมีร่วมกันนั้น จะทำให้สังคมมุสลิมในกรุงเทพฯ มีความตื่นตัวในเรื่องของการออมและการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มมุสลิมมีการให้ความสำคัญในเรื่องนี้น้อยมาก การสนับสนุนให้มุสลิมมีการวางแผนความมั่งคั่งและวางแผนการเกษียณอายุที่ดีมากขึ้น สุดท้ายแล้วจะทำให้มีการจ่ายซะกาต (ทานภาคบังคับ) ในสังคมมุสลิมในกรุงเทพฯ ได้มากขึ้น ซึ่งจะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันเรื่องแชร์ลูกโซ่ ร่วมกับ KTBST ซึ่งเป็นผู้เชียวชาญในเรื่องการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้มุสลิมไม่ตกเป็นเหยื่อ และถูกหลอกลวงน้อยลง

  

  

  

  

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

กรุณาเติมคำตอบในช่องว่างก่อนเข้าระบบ *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Scroll To Top