วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2567 24:30 น.
ประชาสัมพันธ์
Home >> บทความศาสนา >> บทความจากวิทยากร >> ปรัชญาในการประกอบพิธีฮัจญ์
ปรัชญาในการประกอบพิธีฮัจญ์

ปรัชญาในการประกอบพิธีฮัจญ์

ปรัชญาในการประกอบพิธีฮัจญ์

นายอรุณ บุญชม

ประธานกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร

ขณะเมื่อท่านได้ตั้งเจตนาเนียต และกล่าวคำตัลบียะห์

   เป็นการรายงานตัวของท่านต่อพระองค์อัลลอฮ์ ว่าท่านได้มาตามคำเชิญของพระองค์มาสู่พิธีฮัจญ์ ตามที่พระองค์ได้บัญชาให้นบีอิบรอฮีม(อ.ล.)เป็นผู้ประกาศคำเชิญนี้   เป็นการแสดงสถานะของท่านว่าเป็นบ่าวของอัลลอฮ์ และอัลลอฮ์เป็นพระเจ้า ท่านพร้อมรับบัญชาของพระองค์ พร้อมแสดงการภักดีต่อพระองค์ และรับบัญชามาปฏิบัติทันที โดยไม่ลังเล และไม่ต้องหาเหตุผล เพราะพระองค์ไม่ได้แจงเหตุผลในแต่ละขั้นตอนของการทำฮัจญ์ แต่ปล่อยให้เป็นไปด้วยความเชื่อมั่นศรัทธา และการที่ท่านกล่าวคำตัลบียะห์ อยู่ตลอดเวลา ก็เพื่อย้ำสถานะของท่านและความพร้อมของท่านที่จะแสดงการภักดีต่ออัลลอฮ์

ขณะเมื่อท่านอยู่ในชุดเอียะฮ์รอม

   เป็นการแสดงตัวตนที่แท้จริงของท่าน เพราะท่านได้สลัดเครื่องแบบทั้งหลายที่ท่านเคยสวมใส่ออกไป รวมทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ที่ท่านครองอยู่ ตลอดจนเครื่องประดับทั้งหลาย แม้กระทั้งเครื่องหอม  บัดนี้ท่านเหลือแต่ตัวตนที่แท้จริงของท่าน ท่านได้แสดงตนเป็นบ่าวของอัลลอฮ์ ที่ต้องพึ่งพาพระองค์ เป็นบ่าวที่ยอมจำนน และศิโรราบต่อพระองค์อย่างแท้จริง และท่านจะอยู่ในสภาพเช่นนั้นจนเสร็จพิธีฮัจญ์

ขณะมื่อท่านวุกูฟ ที่ทุ่งอะรอฟะห์,พักค้างที่มุซดะลิฟะห์และ มินา

    เป็นการจำลองเหตุการณ์ที่ท่านเป็นผู้หนึ่งที่จะต้องฟื้นคืนชีพในวันกิยามะห์และถูกนำไปรวมกับผู้คนทั้งหลายใน “มะฮ์ชัร” ที่ท่านจะต้องถูกสอบสวน และพิพากษาตัดสิน ท่านจะทำอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนั้น ในสถานการณ์ที่ท่านไม่อาจเพิ่มเติมความดีใดๆให้แก่ตัวท่าน ไม่มีใครจะให้ความช่วยเหลือแก่ท่านได้ แต่ที่ทุ่งอะรอฟะห์ และในดินแดน มะชาอิร ในช่วงเวลาอันจำกัด ท่านยังมีโอกาสที่จะทำความดีเพิ่มเติม ด้วยการกล่าวคำซิกรุ้ลเลาะห์ อ่านอัลกุรอาน กล่าวคำสดุดีอัลลอฮ์ วิงวอนขอความเมตตา ขออภัยโทษต่อพระองค์ เพราะในวันอะรอฟะห์ อัลลอฮ์จะปลดปล่อยบ่าวของพระองค์จำนวนมากให้รอดพ้นจากไฟนรก

ขณะเมื่อท่านตอวาฟ เวียนรอบกะอ์บะห์

  ขณะที่ท่านเดินวนรอบกะอ์บะห์ ในสภาพเดินวนซ้ายทวนเข็มนาฬิกา ท่านกำลังรวมตัวของท่านให้เป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล อาณาจักรอันไพศาลของอัลลอฮ์ ที่ต่างก็มีเส้นทางโคจรวนซ้ายทวนเข็มนาฬิกาทั้งสิ้น ท่านจะเกิดสำนึกว่าท่านเป็นหน่วยหนึ่งของจักวาล และเป็นหน่วยที่เล็กมาก จนแทบไม่มีความสำคัญใดๆเลย ขณะนั้นจิตสำนึกของท่านจะมีแต่ความถ่อมตน สลัดทิ้งความหยิ่งยะโสและโอหังออกไป ท่านจะต้องนอบน้อมต่ออัลลอฮ์ และศิโรราบต่อพระองค์ และถ่อมตนต่อเพื่อนมนุษย์

ขณะเมื่อท่านเดินสะแอ

   ขณะที่ท่านเดินสะแอ ท่านจะนึกถึงความมานะพยายามของพระนาง ฮาญัร ที่เดินหาน้ำให้แก่ลูกน้อย อิสมาอีล ระหว่างภูเขา ซอฟาและมัรวะห์ เที่ยวแล้วเที่ยวเล่า จนในที่สุดพระนางได้พบน้ำ และได้กลายเป็นบ่อน้ำซัมซัม ให้ผู้คนได้ดื่มกินตราบถึงวันนี้  ด้วยเดชานุภาพของอัลลอฮ์ พระองค์จะประทานน้ำให้แก่พระนางตั้งแต่เที่ยวแรกของการเดินหาน้ำก็ได้  แต่เพื่อเป็นบทเรียนให้แก่มนุษย์ว่า การช่วยเหลือของพระองค์ หรือชัยชนะนั้นพระองค์จะประทานให้แก่ ผู้ที่ใช้ความมานะพยายามอย่างถึงที่สุดเสียก่อนเสมอ บางคนอาจเรียกร้องหาความช่วยเหลือ หรือแสวงหาชัยชนะทั้งที่เขายังไม่ได้ใช้ความพยายาม หรือใช้ความพยายามยังไม่ถึงที่สุด แล้วเขาจะได้รับความช่วยเหลือหรือได้รับชัยชนะได้อย่างไร

ขณะที่ท่านขว้างก้อนหิน

    ขณะที่ท่านขว้างก้อนหิน ที่เสาหินทั้งสามต้นนั้น เท่ากับท่านได้ประกาศตัวเป็นศัตรู กับชัยตอนมารร้ายอย่างเป็นทางการ ตามบัญชาของอัลลอฮ์ที่ว่า “ท่านจงเอาชัยตอนเป็นศัตรู” เมื่อท่านได้ประกาศตัวเป็นศัตรูกับมันแล้ว ไม่มีวันที่ท่านจะกลับไปคืนดีเป็นมิตรกับมัน และไม่มีวันที่ท่านจะเดินตามรอยเท้าของมัน ท่านจะต้องระมัดระวังตัวไม่ให้ศัตรูเข้ามาใกล้ตัวท่าน ท่านจะกล่าวคำขอป้องกันจากอัลลอฮ์ให้พ้นไปจากมัน ท่านจะต้องไม่ลืมว่า ไม่ว่าท่านจะระมัดระวังตัว และขอป้องกันให้พ้นไปจากชัยตอน มารร้ายอย่างไร มันก็จะไม่ลดละความพยายามที่จะเข้ามาใกล้ท่าน และทำลายท่านด้วยการลวงล่อท่านให้ติดบ่วงของมัน และลากจูงท่านไปสู่ความชั่ว ท่านจะต้องระลึกอยู่เสมอว่าชัยตอน มารร้ายคือศัตรูของท่าน ที่ท่านจะไม่ยอมสยบให้แก่มันเป็นอันขาด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

กรุณาเติมคำตอบในช่องว่างก่อนเข้าระบบ *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Scroll To Top