วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2567 9:10 น.
ประชาสัมพันธ์
Home >> บทความศาสนา >> บทความจากวิทยากร >> อย่าให้ความตระหนี่ทำลายเนียะอ์มัต
อย่าให้ความตระหนี่ทำลายเนียะอ์มัต

อย่าให้ความตระหนี่ทำลายเนียะอ์มัต

อย่าให้ความตระหนี่ทำลายเนียะอ์มัต

ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก

          ครั้งหนึ่ง ท่านอะบูฮุรอยเราะฮ์ รอฎิยั้ลลอฮ์ฯ ได้รับฟังท่านนบี ศ้อลฯ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชนยุคก่อน โดยท่านกล่าวว่า มีชายสามคน จากบะนีอิสรออีล คนหนึ่งเป็นโรคด่าง คนที่สองศีระโล้น และคนที่สามตาบอด อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงทดสอบชายสามคนนี้ พระองค์บัญชาให้มะลาอีกะฮ์มายังพวกเขา

ชายคนแรก เป็นโรคด่าง มะลาอีกะฮ์ได้กล่าวถามว่า “สิ่งใดที่ท่านปรารถนามากที่สุด” ชายผู้นี้ตอบว่า “การมีสีผิวที่ผ่องใสและผิวหนังที่งดงามและหายจากโรคด่างซึ่งเป็นที่น่ารังเกียจจากผู้คนทั้งหลาย” มะลาอีกะฮ์ก็ได้ลูบไปที่ชายผู้นี้ โรคด่างก็หายไปและมีสีผิวที่ผ่องใสกับผิวหนังอันงดงาม มะลาอีกะฮ์กล่าวถามอีกว่า “ทรัพย์ชนิดใดที่ท่านปรารถนามากที่สุด” ชายผู้นี้ตอบว่า “อูฐ”  มะลาอีกะฮ์ได้มอบอูฐให้แก่เขาซึ่งเป็นอูฐที่ตั้งท้อง พร้อมขอดุอาอ์ให้ด้วยว่า

بَارَكَ اللهُ لَكَ فِيْهَا

ความว่า “ขอเอกองค์อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงให้มีสิริมงคล (ความเพิ่มพูน) ในอูฐนี้ด้วย” 

ชายคนที่สอง มีสภาพศีรษะโล้น มะลาอีกะฮ์ถามว่า “แล้วท่านปรารถนาสิ่งใดมากที่สุด” ชายผู้นี้ตอบว่า “ผมที่ดกงดงามและโรคที่ผู้คนแสดงความรังเกียจแก่ฉัน” มะลาอีกะฮ์ได้ลูบไปที่ศีรษะของชายผู้นี้ โรคที่พึงรังเกียจได้หายไปพร้อมกับมีผมที่ดกงดงาม มะลาอีกะฮ์ถามชายผู้นี้อีกว่า “ทรัพย์สินใดที่ท่านต้องการมากที่สุด” ชายผู้นั้นตอบว่า “วัว” มะลาอีกะฮ์ได้มอบวัวซึ่งตั้งท้องแล้วแก่ชายผู้นี้ พร้อมขอดุอาอ์ให้มีความเพิ่มพูนในวัวตัวนั้นด้วย

ชายคนที่สาม ตาบอดมองไม่เห็น มะลาอีกะฮ์ได้ถามว่า “ท่านต้องการสิ่งใดมากที่สุด” ชายผู้นี้ตอบว่า “ฉันปรารถนาให้อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงประทานดวงตา เพื่อให้ฉันได้มองเห็นคนอื่นๆ มะลาอีกะฮ์ได้ลูบไปที่ชายผู้นี้ ตาที่บอดมองเห็นได้” มะลาอีกะฮ์กล่าวถามชายผู้นี้อีกว่า “ทรัพย์ใดที่ท่านต้องการหรือ” ชายผู้นี้ตอบว่า “แพะ แกะ” มะลาอีกะฮ์ได้มอบ แพะ แกะ ที่แพร่พันธุ์ได้แก่ชายผู้นี้ พร้อมขอดุอาอ์ให้มีความเพิ่มพูนในวัวตัวนั้นด้วย

ทั้งสามคนได้ความเพิ่มพูนหรือความจำเริญ (بَرَكَةُ) จากอูฐ วัว แพะ แกะ แต่ละชนิดเจริญเพิ่มพูนขยายพันธุ์เต็มท้องทุ่ง

ต่อมาหลังจากนั้น มะลาอีกะฮ์รูปเดิม ได้มาหาชายที่เคยเป็นโรคด่างและกล่าวว่า  “ฉันเป็นชายซึ่งยากจนเดินผ่านเขาลูกแล้วลูกเล่า ฉันไม่สามารถถึงจุดหมายได้เลย เว้นแต่อัลลอฮ์ ตะอาลา ต่อมาก็ด้วยการช่วยเหลือของท่าน ฉันขอความช่วยเหลือจากท่านต่อผู้ซึ่งทำให้ผิวหนังที่สวยงามสีผิวที่ผ่องใสและทรัพย์ที่เป็นอูฐนำฉันถึงเป้าหมายด้วยเถิดในการเดินทางของฉัน” ชายผู้นี้ตอบว่า “ข้ามีภาระต้องรับผิดชอบมากมาย” มะลาอิกะฮ์จึงกล่าวว่า “คล้ายกับฉันเคยรู้จักท่าน ท่านมิใช่หรือคือชายที่เคยเป็นโรคด่างและยากจนซึ่งผู้คนรังเกียจ อัลลอฮ์ ตะอาลา ก็ได้ทรงประทานให้แก่ท่าน” เขากล่าวแก่มะลาอีกะฮ์ว่า “อันที่จริงทรัพย์สินของข้าได้รับมรดกจากรุ่นแล้วรุ่นเล่าของบรรพชน” มะลาอีกะฮ์จึงกล่าวว่า “หากท่านโกหกขอให้อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงเปลี่ยนสภาพท่านไปสู่สภาพเดิมเถอะ” และมะลาอีกะฮ์ก็ได้ไปหาชายที่เคยศีรษะโล้น พร้อมกับได้ถามและขอความอนุเคราะห์เฉกเช่นชายซึ่งเป็นโรคด่าง มะลาอีกะฮ์ก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกันกับชายคนแรก มะลาอีกะฮ์จึงกล่าวว่า  “หากท่านโกหกขอเอกองค์อัลลอฮ์ ตะอาลา ให้ท่านกลับคืนสู่สภาพเดิมเถิด” และมะลาอีกะฮ์ได้ไปหาชายคนที่สาม คือชายซึ่งเคยตาบอดพร้อมกล่าวว่า “ฉันเป็นคนจนเดินทางข้ามเขาหลายลูก ฉันไม่สามารถถึงจุดหมายได้เว้นแต่อัลลอฮ์ ตะอาลา ต่อมาก็ด้วยการอนุเคราะห์ของท่าน ฉันขอท่านต่อผู้ซึ่งได้ให้สายตาของท่านแลเห็น เพียงแกะหนึ่งตัวเพื่อทำให้ฉันบรรลุเป้าหมายในการเดินทาง” ชายผู้นี้กล่าวว่า “ความจริงแล้วฉันเคยตาบอด อัลลอฮ์ ตะอาลา ก็ทรงทำให้ฉันมองเห็น ดังนั้นท่านจงเอาไปเถอะเท่าที่ท่านต้องการ และทิ้งไว้ให้เหลือแก่ฉันเท่าที่ท่านต้องการเช่นเดียวกัน ฉันไม่รู้สึกว่าลำบากใจเลยในวันที่ท่านได้เอาสิ่งหนึ่งไปเพื่ออัลลอฮ์ ตะอาลา” มะลาอีกะฮ์จึงกล่าวว่า “ท่านเก็บทรัพย์สินของท่านไว้เถิด แท้จริงฉันมาเพื่อทดสอบพวกท่าน และความจริงอัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงพอใจในตัวท่านและพระองค์ทรงโกรธเพื่อนท่านอีกสองคน”

ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก  เป็นสาระประโยชน์แก่มุมินที่ไตร่ตรองและประจักษ์ว่า

๑.   คนบะคี้ล (ตระหนี่ ) ผนวกด้วยความมุสา ได้นำมาซึ่งความโกรธกริ้วของอัลลอฮ์ ตะอาลา เฉกเช่นที่พระองค์ทรงกริ้วชายที่เป็นโรคด่างและชายศีรษะโล้น

๒.   เนียะอ์มัตที่มนุษย์ได้รับ เป็นความโปรดปรานจากอัลลอฮ์ ตะอาลา ที่ทรงประทานให้และกลายสภาพเป็นบะลอเพราะความตระหนี่ จนกลายเป็นผู้ปฏิเสธเนียะอ์มัต

๓.   ความสัจจะและความใจบุญทั้งสองคือลักษณะจากบรรดาคุณลักษณะที่น่าสรรเสริญ ดั่งเช่นชายตาบอดซึ่งไม่ลืมบุญคุณของอัลลอฮ์ ตะอาลา จึงได้รับเนียะอ์มัตต่อเนื่อง

๔.   เป็นที่อนุญาตในการนำเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงจากบะนี  อิสรออีล หรืออื่นๆ เพื่อเป็นอุทาหรและบทเรียน

๕.   มันเป็นประโยชน์มากในการนำเสนอและเชิญชวนสู่ความดี และป้องปรามจากความชั่วด้วยเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจริง และที่สำคัญยิ่งคือ มุมินต้องมีคุณลักษณะของคนที่มีสัจจะไม่โกหกและใจบุญเพื่ออัลลอฮ์ ตะอาลา พร้อมรีบเร่งขอบคุณในพระเมตตาของพระองค์หรือเนียะอ์มัตที่พระองค์ทรงประทานให้ ไม่ว่าการขอบคุณทางใจ วาจา หรือการกระทำ

بَارَكَ اللهُ لِيْ وَلَكُمْ فِي الْقُرْآنِ الْكَرِيْمِ وَنَفَعَنِي اللهُ وَإِياَّكُمْ بِمَا فِيْهِ مِنَ اْلآياَتِ وَالذِّكْرِ الْحَكِيْمِ أَقُوْلُ قَوْلِيْ هَذَا وَأَسْتَغْفِرُ اللهَ لِيْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمٍيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ وَالْمُؤْمِنِيْنَ وَالْمُؤْمِنَاتِ فَاسْتَغْفِرُوْهُ إِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ     . 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

กรุณาเติมคำตอบในช่องว่างก่อนเข้าระบบ *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Scroll To Top