การทดแทนที่ดีกว่า
ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่เคารพรัก
บ่าวของอัลลอฮ์ ตะอาลา ซึ่งเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริงคือ เขาจะไม่มีความโกรธ หรือท้อแท้ เมื่อได้รับการทดสอบจากอัลลอฮ์ ตะอาลา พร้อมกับการยอมรับในการทดสอบนั้น และไม่สิ้นหวังกับความเมตตาของพระองค์ในอนาคต และให้เขามั่นใจเถิดว่า ผู้อดทนต่อภัยที่มาประสบแก่เขาหรือโรคที่มารุมเร้าเขา มันคือเครื่องมือล้างบาปที่เคยทำมา ซึ่งมีรายงานจากท่านอะนัส รอฎิยั้ลลอฮ์ฯ กล่าวว่า
قاَلَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : إِذَا أَرَادَ اللهُ بِعَبْدِهِ الْخَيْرَ عَجَّلَ لَهُ الْعُقُوْبَةَ فِي الدُّنْياَ ، وَإِذَا أَرَادَ اللهُ بِعَبْدِهِ الشَّرَّ أَمْسَكَ عَنْهُ بِذَنْبِهِ حَتَّى يُوَافِيَ بِهِ يَوْمَ الْقِيَامَةِ ، وَقَالَ : إِنَّ عِظَمَ الْجَزَاءِ مَعَ عِظَمِ الْبَلاَءِ ، وَإِنَّ اللهَ تَعَالَى إِذَا أَحَبَّ قَوْمًا إِبْتَلاَهُمْ فَمَنْ رَضِيَ فَلَهُ الرِّضَى وَمَنْ سَخِطَ فَلَهُ السُّخْطُ . رواه الترمذي
ความว่า “คราใดที่อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงปรารถนาให้บ่าวของพระองค์ประสบกับความดีพระองค์จะทรงลงโทษเขาในดุนยานี้ และเมื่อคราใดพระองค์ทรงปรารถนาให้บ่าวของพระองค์ได้ประสบกับความเลวร้าย พระองค์จะยังไม่ลงโทษเขากับบาปที่เขาทำ จนกระทั้งเขาจะรับแบกบาปของเขาไปสู่การลงโทษในวันกิยามะฮ์ และท่านนบี ศ้อลฯ ก็กล่าวอีกว่า แท้จริงความยิ่งใหญ่แห่งการตอบแทนย่อมมาพร้อมกับการทดสอบที่มากมาย และแท้จริงอัลลอฮ์ ตะอาลา เมื่อพระองค์ทรงรักชนกลุ่มใด พระองค์ก็จะทรงทดสอบพวกเขา ผู้ใดยอมรับมันได้ เขาผู้นั้นก็จะได้ความพึงพอพระทัย และผู้ใดมีอาการโกรธ เขาก็จะได้รับความพิโรธ”
และเป็นส่วนที่สำคัญที่มีผลอันล้ำค่ามหาศาลแก่มนุษย์ที่เป็นมุอ์มิน นั่นคือบาปอันหลากหลายจะถูกล้างไปโดยการที่มุอ์มินอดทนกับการทดสอบของอัลลอฮ์ ตะอาลา ซึ่งเรียกว่า (البَلاَءُ) การยอมรับพร้อมด้วยการอดทนย่อมนำมาซึ่งความเมตตาแห่งอัลลอฮ์ ตะอาลา และผลดีที่ติดตามมาภายหลัง ดังมีรายงานจากท่านอะนัส รอฎิยัลลอฮ์ฯ โดยบันทึกจากท่านมุสลิมว่า
“ลูกชายของท่านอะบูฎ่อลหะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮ์ฯ เกิดความเจ็บป่วยและถึงแก่ความตาย มารดาซึ่งมีนามว่า อุมมุสุลัยม์ เธอกล่าวแก่ครอบครัวเธอว่า “ท่านทั้งหลายอย่าได้เล่าแก่ อะบูฎ้อลหะฮ์ เลยว่าลูกของเขาได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ ตะอาลา แล้ว ฉันจะเป็นผู้บอกเขาเอง” ขณะนั้น อะบูฎ้อลหะฮ์ ได้ออกสู่สมรภูมิเพื่อศาสนา หลังจากเสร็จจากสมรภูมิแล้ว อะบูฎ้อลหะฮ์ได้เดินทางกลับบ้าน อุมมุสุลัยมได้ต้อนรับเขาในฐานะเป็นภรรยาด้วยอาหารและเครื่องดื่มและเธอได้ปรนนิบัติแก่ อะบูฎ้อลหะฮ์ประดุจดังที่เธอเคยปรนนิบัติเฉกเช่นก่อนๆ มา และในคืนนั้นเธอและเขาก็ได้ร่วมหลับนอนฉันสามีภรรยา เมื่อเธอรู้สึกได้ว่า อะบูฎ้อลหะฮ์อิ่มหนำสำราญแล้ว เธอจึงเอ่ยปากกล่าวแก่ อะบูฎ้อลหะฮ์ซึ่งเป็นสามีของเธอว่า
أَرَأَيْتَ لَوْ أَنَّ قَوْمًا أَعَارُوْا عَارِيَتَهُمْ أَهْلَ بَيْتٍ فَطَلَبُوْا عَارِيَتَهُمْ أَلَهُمْ أَنْ يَمْنَعُوْهُمْ ؟ قَالَ لاَ فَقَالَتْ , فَاحْتَسَبِ اِبْنَكَ
ความว่า “ท่านมีความเห็นอย่างไรหากว่ามีกลุ่มชนหนึ่งได้ขอยืมสิ่งที่หยิบยืมได้จากครอบครัวหนึ่ง ต่อมาครอบครัวนั้นได้มาทวงคืน ผู้ยืมมาจะขัดขืนได้ไหม ท่านอะบูฎ้อลหะฮ์ จึงกล่าวตอบว่ามันขัดขืนไม่ได้เด็ดขาด เธอจึงกล่าวขึ้นว่า ท่านจงหวังในผลบุญตอบแทนจากอัลลอฮ์ ตะอาลา เถิด ลูกของท่านได้จากไปแล้ว”
ท่านอะบูฎ้อลหะฮ์ เกิดอาการโกรธเธอและกล่าวว่า เธอทำไมไม่บอกฉันตั้งแต่แรก จนกระทั้งฉันได้ร่วมหลับนอนกับเธอ เธอจึงพึ่งมาบอกฉันหรือ ! หลังจากนั้นท่านอะบูฎ้อลหะฮ์ ได้เดินทางไปพบท่านร่อซู้ล ศ้อลฯ และเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเขาและครอบครัวเขา ท่านร่อซู้ล ศ้อลฯ จึงขอดุอาอ์ให้แก่อะบูฎ้อลหะฮ์ และภรรยาของเขาด้วยคำว่า بَارَكَ اللهُ لَكُمَا فِيْ لَيْلَتِكُمَا “ขอเอกองค์อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงประทานความมีบะรอกัตแก่ท่านทั้งสองในคืนที่ผ่านมาของท่านทั้งสองด้วยเถิด” เธอคือ อุมสุลัยม์ได้ตั้งครรภ์และหลังจากนั้นเธอได้คลอดบุตรและได้นำลูกของเธอไปพบท่านร่อซู้ล ศ้อลฯ พร้อมกับอินทผาลัมจำนวนหนึ่ง ท่านร่อซู้ล ศ้อลฯ ได้เคี้ยวมันและได้นำมันใส่ไปในปากของลูกอะบูฎ้อลหะฮ์และท่านทำการตะห์นีก (ขยายเพดาน) พร้อมกันนั้นท่านตั้งชื่อให้มีนามว่าอับดุลเลาะฮ์
ท่านอิบนุ อุยัยนะฮ์กล่าวว่า فَقَالَ رَجُلٌ مِنَ اْلأَنْصَارِ มีชายผู้หนึ่งจากชาวอันศอรกล่าวว่า
فَرَأَيْتُ تِسْعَةَ أَوْلاَدٍ كُلُّهُمْ قَرَؤُوْا الْقُرْآنَ : يَعْنِيْ مِنْ أَوْلاَدِ عَبْدِ اللهِ الْمَوْلُوْدِ
ความว่า “ข้าพเจ้าได้พบเห็นลูกทั้งเก้าคนของอับดุลเลาะฮ์ท่องจำ อั้ลกุรอ่านกันทั้งหมดเลย”
ท่านพี่น้องที่รัก นั้นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงจากหญิงที่อีหม่านมั่นคง ภรรยาที่ฎออัตต่อสามี กับความอดทนจากการทดสอบของพระผู้เป็นเจ้าด้วยการจากไปของลูกอันเป็นสุดที่รักของเธอ พร้อมอีหม่านอันเข้มแข็งและอดทนจากการทดสอบทำให้เธอตั้งสติได้และสามารถผ่านวิกฤติอันน่าเศร้าสลดจนในที่สุดเธอได้รับการทดแทนที่ดียิ่งกว่า ดังคำกล่าวของอุละมาอ์ว่า
أَنَّ مَنْ تَرَكَ شَيْئًا ِللهِ عَوَّضَهُ الله ُخَيْرًا مِنْهُ
ความว่า “แท้จริงผู้ใดยอมสละสิ่งหนึ่งเพื่ออัลลอฮ์ ตะอาลา พระองค์ได้ทรงทดแทนสิ่งที่ดีกว่าแก่เขา อินชาอัลลอฮ์”