“สุรา” มาเมื่อใด… “อีหม่าน” จากไปเมื่อนั้น…
ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก
มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่ง รายงานว่า สามีภรรยาคู่หนึ่ง ถูกรางวัลเลขท้ายจากการซื้อหวย ความดีใจกับรางวัลที่ชั่วหลังจากหมดเงินไปหลายงวดจากการซื้อหวย ทั้งสองได้ฉลองกันซื้อสุรายาเมา และกับแกล้มคลอเคล้าด้วยเสียงดนตรีจนเมาได้ที่ และพูดภาษาคนกันไม่เข้าใจ ทั้งสองเกิดโทสะถึงขั้นทะเลาะวิวาทลงไม้ลงมือกัน ผลสุดท้าย สามีถูกภรรยาฆ่าตาย ความโศกเศร้าครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะสุรายาเมาเป็นเหตุ แต่ยังไม่เป็นที่สลดมากนัก เนื่องจากสามีภรรยาคู่นี้ไม่ใช่มุสลิมอย่างเราๆ มนุษย์ซึ่งถูกขนานนามว่า เขาได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) คือ ผู้ที่ตายไปในสภาพที่มีอีหม่านติดตัวไปด้วย และเขาต้องตอบคำถามของมุนกัรนะกีร ในอะลั่มบัรซัค ซึ่งเป็นโลกขั้นกลางระหว่างดุนยาและอาคิเราะฮ์ ก็ด้วยภาษาอีหม่านนี้แหละ เพราะฉะนั้นมุสลิมคนใดก็ตาม อย่าได้ไปลองน้ำเมาเลยทีเดียว ถึงแม้นจะทำความดีมามากมายขนาดไหนก็ตาม เกิดมะลิกุ้ลเมาตชักวิญญานขณะเสพสุรายาเมา นั้นแสดงว่า เขาจากโลกดุนยาไป โดยอีหม่านไม่ได้ตามเขาไปด้วย
عَنْ أَبِيْ هُرَيْرَةَ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ أَنَّهُ قَالَ : قَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : إِذَا زَنَى الْعَبْدُ أَوْشَرِبَ الْخَمْرَ نَزَعَ اللهُ عَنْهُ اْلإِيْمَانَ كَمَا يَخْلُعُ الإِنْسَانُ الْقَمِيْصَ مِنْ رَأْسِهِ : رواه الحاكم
ความว่า “มีรายงานจากท่านอะบูฮุรอยเราะฮ์ ร่อฏิยั้ลลอฮุอันฮ ได้กล่าวว่า ท่านร่อซู้ล (ศ้อลฯ) กล่าวว่า เมื่อบ่าวคนหนึ่งทำซินาหรือดื่มสุรา อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงถอดอีหม่านออกจากเขา ประดุจดั่งมนุษย์ถอดเสื้อออกจากทางด้านศีรษะของเขา”
ผู้ที่ดื่มสุรายาเมา ผู้นั้นจะขาดอีหม่านอันสมบูรณ์ ดังท่านบี (ศ้อลฯ) กล่าวว่า
وَلاَيَشْرَبُ الْخَمْرَ حِيْنَ يَشْرَبُهَا وَهُوَ مُؤْمِنٌ … أخرجه البخاري عن أبي هريرة
ความว่า “และเขาจะไม่ดื่มสุราขณะเขากำลังดื่มมันในสภาพที่เป็นมุอ์มิน”
นักวิชาการให้ความหมายว่า คนที่ดื่มสุรายาเมาจะไม่คงสภาพของผู้มีอีหม่านอันสมบูรณ์ มิใช่การตัดสินว่า เขาเป็นกาเฟร แต่อย่างไรก็ตาม มุสลิมและมุอ์มินเขาไม่ทำกัน เนื่องจากกลัวอัลลอฮ์ (ซ.บ.) และไม่อยากออกห่างไกลสวรรค์ เพราะผู้ที่ติดสุรายาเมา แม้แต่กลิ่นไอของสวรรค์ก็ยังไม่ได้สัมผัส ซึ่งท่านอะบูฮุรอยเราะฮ์ รายงานว่า ท่านนบี (ศ้อลฯ) กล่าวว่า
إِنَّ رَائِحَةَ الْجَنَّةِ لَتُوْجَدُ مِنْ مَسِيْرَةِ خَمْسُمِائَةِ عَامٍ ، وَلاَ يَجِدُ رِيْحَهَا عَاقٌ وَلاَ مَنَّانٌ وَلاَ مُدْمِنُ خَمْرٍ وَلاَ عَابِدُ وَثَنٍ : رواه الطبراني
ความว่า “แท้จริงกลิ่นหอมของสวรรค์จะถูกสัมผัสได้ด้วยความไกลเท่ากับระยะเดินทางถึงห้าร้อยปี ผู้เณรคุณต่อบิดามารดา ผู้ลำเลิกบุญคุณ ผู้ติดสุรา ผู้สักการะสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) จะไม่ได้สัมผัสกับกลิ่นหอมของสวรรค์”
ท่านพี่น้องที่รัก น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง ที่ไหลออกมาจากแผล เรารู้สึกรังเกียจ ไม่มีใครนำมาปรุงอาหาร ไม่มีมุสลิมคนใดนำมาอุปโภคหรือบริโภค ยกเว้นคนดื่มสุรายาเมา เขาจะดื่มมันและเป็นเครื่องดื่มในนรก ดังท่านนบี (ศ้อลฯ) กล่าวว่า
وَمَنْ مَاتَ وَهُوَ يَشْرَبُ الْخَمْرَ سَقَاهُ اللهُ مِنْ نَهْرِ الْغُوْطَةِ ، وَهُوَ مَا يَجْرِيْ مِنْ فُرُوْجِ الْمُوْمِسَاسِ أَيْ : اَلزَّانِيَاتِ يُؤْذِيْ أَهْلَ النَّارِ رِيْحُ فُرُوْجِهِنَّ : رواه أحمد من حديث أبي موسى الاشعري
ความว่า “ผู้ใดที่ตายไปในสภาพที่เสพสุรา พระองค์อัลลอฮ์ (ศ้อลฯ) จะทรงให้เขาได้ดื่มจากแม่น้ำฆูเฎาะฮ์ ( اَلْغُوْطَةُ ) ฆูเฎาะฮ์ คือ น้ำที่ไหลออกมาจากบรรดาอวัยวะเพศของผู้หญิงซึ่งทำซินา แม้กระทั้งชาวนรกจะรับความทารุณเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นของอวัยวะเพศของพวกเธอ”
ท่านฟะกีฮ์ อะบุ้ล ลัยษ (الفَقِيْهُ أَبُو الْلَيْث) ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ์ ได้กล่าวเตือนว่า ท่านจงระมัดระวังกับพิศภัยของการเสพสุรายาเมา ในการเสพมันนั้นมีผลภัยอันมหันต์ถึงสิบประการ
1. ผู้เสพสุรามีสภาพดั่งคนบ้า และเป็นที่หัวเราะเยาะของเด็ก และเป็นที่ประณามหยามหมิ่นของผู้คนทั้งหลาย
2. ทำลายทรัพย์สิน ทำลายสติปัญญา
3. เป็นต้นกำเนิดแห่งการทะเลาะวิวาทและก่อเกิดความเป็นศัตรูในหมู่พี่น้องพ้องเพื่อน
4. เป็นกำแพงขวางกั้นจากการรำลึกถึงอัลลอฮ์ (ซ.บ.) และการละหมาด
5. นำพาสู่การมั่วสุมและสู่การซินาโดยไม่รู้ตัว ยิ่งกว่านั้น บางคนหย่าภรรยาโดยไม่รู้ตัว
6. เป็นกุญแจเปิดประตูสู่บรรดาความชั่ว เพราะสุรามีผลต่อผู้เสพให้มีความสะดวกสู่การทำมะศิยัต (ความชั่ว) ต่างๆ
7. สร้างความอันตรายต่อมะลาอิกะฮ์ ซึ่งปกปักรักษาเขา โดยการนำพวกเขาสู่สถานที่ซึ่งรวมไปด้วยความชั่ว
8. ต้องโดนชำระโทษโดยถูกเฆี่ยนตีถึงแปดสิบครั้งในโลกดุนยานี้ หากไม่ถูกเฆี่ยนตีในภพนี้ ผู้นั้นจะถูกเฆี่ยนตีด้วยแซ่ ซึ่งทำมาจากไฟนรก ต่อหน้าบรรดาผู้คนเพื่อเป็นการประจาน พ่อแม่ เพื่อนฝูง จ้องมองเขาประดุจสายตาเดียวกัน
9. ประตูฟากฟ้าไม่ยอมเปิดรับ เพราะความดีที่ทำในขณะนั้น ไม่ถูกส่งสู่ฟากฟ้าถึงสี่สิบวัน แม้กระทั้งยกมือขอดุอาอ์ อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ก็ไม่ทรงรับ
10. เป็นความน่าหวาดกลัวซึ่งหาที่เปรียบมิได้ คือ อีหม่านจะหลุดลอยออกไปขณะถูกชักวิญญาณ (وَالْعَيَاذُ بِاللهِ) ขออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงให้อีหม่านที่แน่นแฟ้น แก่พวกเราทุกคน และขอพระองค์ทรงให้แก่พวกเราได้ออกห่างไกลจากความชั่วที่เป็นหนทางสู่ความหายนะทั้งดุนยาและอาคิเราะฮ์
بَارَكَ اللهُ لِيْ وَلَكُمْ فِي الْقُرْآنِ الْكَرِيْمِ وَنَفَعَنِي اللهُ وَاِياَّكُمْ بِمَافِيْهِ مِنَ اْلآياَتِ وَالذِّكْرِ الْحَكِيْمِ ، أَقُوْلُ قَوْلِيْ هَذَا وَأَ سْتَغْفِرُ اللهَ لِيْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ وَالْمُؤْمِنِيْنَ وَالْمُؤْمِنَاتِ فَاسْتَغْفِرُوْهُ إِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ .