พวกเขารู้จักร่อซู้ลของพวกเขาหรือยัง?
اَلْحَمْدُ ِللهِ الَّذِيْ أَنَارَ اْلوُجُوْدَ بِطَلْعَةِ أَبِي الْقَاسِمِ . مُحَمَّدِ بْنِ عَبْدِ اللهِ بْنِ عَبْدِ الْمُطْلِبِ بْنِ هَاشِمٍ . وَأَشْهَدُ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللهُ اصْطَفَاهُ مَوْلاَهُ مِنْ أَشْرَفِ السُّلاَلاَتِ وَأَعْرَقِ الْبُيُوْتاَتِ . وَأَشْهَدُ أَنَّ مُحَمَّدًا رَسُوْلُ اللهِ عَمَّ الْكَوْنَ نُوْرُهُ وَانْتَشَرَضِيَاؤُهُ وَزَّيَّنَتْ لِمِيْلاَدِهِ اْلاَرْضُ وَالسَّمَاوَاتُ . اَللَّهُمَّ صَلِّ وَسَلِّمْ عَلَى مُحَمَّدٍ أَكْرَمِ مَوْلُوْدٍ . وَأَشْرَفِ مَخْلُوْقٍ عِنْدَ الْمَلِكِ الْمَعْبُوْدِ . وَنِعْمَةِ اللهِ عَلَى كُلِّ مَوْجُوْدٍ . وَعَلَى آلِهِ وَصَحْبِهِ وَمَنْ تَبِعَهُمْ بِإِحْسَانٍ اِلَى يَوْمِ الدِّيْنِ .
أَمَّا بَعْدُ فَيَا عِبَادَ اللهِ : أُوْصِيْكُمْ وَنَفْسِيْ أَوَّلاً بِتَقْوَى اللهِ تَعَالَى وَطَاعَتِهِ .فَقَدْ
قَالَ اللهُ تَعَالَى فِي الْقُرْآنِ الْكَرِيْمِ : وَمَا أَرْسَلْناَكَ إِلاَّ رَحْمَةً لِلْعَالَمِيْنَ
พี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก
ส่วนของความเป็นมุสลิมที่เป็นอุมมะห์ของท่านนบีมูฮำหมัด (ศ้อลฯ) คือ ทำความรู้จักศาสดาองค์สุดท้าย ที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้เผยแพร่ศาสนาของพระองค์ ดังอัลลอฮ์ตรัสว่า
وَمَا أَرْسَلْنَاكَ إِلاَّ كَافَّةً لِّلنَّاسِ بَشِيرًا وَنَذِيرًا وَلَكِنَّ أَكْثَرَ النَّاسِ لاَ يَعْلَمُونَ : سورة سبأ الآية : 28
ความว่า “และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใด เว้นแต่เป็นผู้แจ้งข่าวดี ถึงการตอบแทนในผลงานที่ดี หากพวกเขาเชื่อฟังและศรัทธาและเป็นผู้ตักเตือนแก่มนุษย์ทั้งหลาย เรื่องการลงโทษของเรา หากพวกเขาฝ่าฝืนและปฏิเสธ แต่ว่าส่วนมากของมนุษย์ไม่รู้”
คุตบะห์วันนี้ ขอนำเสนอเพียงเสี้ยวหนึ่งจากความจำเป็นที่มุสลิมต้องได้รู้และรับทราบว่า นบีองค์สุดท้ายคือ มูฮัมหมัด บุตรของอับดุลเลาะห์ บุตรอับดุลมุฏลิบ บุตรฮาชีม บุตรอับดิมะนาฟ บุตรกุซอยย์ บุตรกิลาบ อยู่ในตระกูล กุรอชีย์ ฮาชีมีย์ กุนยะห์ ของท่านคือ อะบุ้ลกอซิม ความหมายคือ บิดาของกอซิม เป็นประเพณีของคนอาหรับที่ใช้เรียกแทนชื่อจริง เพราะท่านนบี (ศ้อลฯ) มีบุตรคนแรกชื่อ กอซิม มารดาของท่านนบี (ศ้อลฯ) นามว่าท่านหญิงอามีนะห์บุตรวะห์บิน บุตรของอับดิมะนาฟ บุตรของซะฮ์เราะห์ บุตรของกิลาบ ตระกูลของเธอคือ กุร่อชียะห์ซุฮ์รียะห์
ท่านนบี (ศ้อลฯ) ประสูติที่บ้านของอะบูตอลิบ ซึ่งเป็นลุง ในนครมักกะห์หรือบักกะห์ เมื่อวันจันทร์ที่ 12 เดือนรอบีอุ้ลเอาวัล ปีช้าง ตรงกับวันที่ 20 เมษายน ปีที่ 571 ค.ศ. ท่านเติบโตในสภาพเป็นเด็กกำพร้า เนื่องจากบิดาของท่านได้เสียชีวิต ขณะที่ท่านอยู่ในครรภ์มารดา หลังจากนั้น มารดาของท่านได้เสียชีวิตจากท่านไปอีก ขณะที่ท่านอายุเพียง 6 ขวบ ท่านได้รับการดูแลและเลี้ยงดูจากปู่ของท่านชื่ออับดุลมุฏลิบ ไม่นานเท่าไหร่ปู่ของท่านก็จากโลกดุนยา ลุงของท่านชื่ออะบูตอลิบ จึงรับภาระเลี้ยงดูท่านต่อมา ท่านได้รับการให้นมจากแม่นมท่านหนึ่งนามว่า หะลีมะห์ บุตรของอะบีชุอัยบ์ เธออยู่ในตระกูลของบะนีซะอัด
ต่อมาเมื่อท่านอายุได้ 25 ปี นับว่าเป็นเนี๊ยะมัตอันสูงสุด คือท่านได้สมรสกับท่านหญิงค่อดียะห์ บุตรของคุวัยลิด บุตรของอะซะดิน อัลกุร่อชีย์ ขณะที่ท่านหญิง ค่อดียะห์อายุ 40 ปี ท่านหญิงสิ้นชีวิตลง ก่อนที่ท่านนบี (ศ้อลฯ) อพยพเพียง 3 ปี
จากนั้น ท่านได้รับภาระเลี้ยงดูและสมรสกับหญิงหม้าย ยกเว้นเพียงท่านหญิงอาอิชะห์ เพียงท่านเดียวที่เป็นหญิงสาว
นามชื่อบรรดาภรรยาของท่านหลังจากการตายของท่านหญิงค่อดียะห์ คือ
1. เซาดะห์บุตรของซัมอะห์ ( سَوْدَةُ بِنْتِ زَمْعَةُ )
2. อาอีชะห์บุตรของอ่าบีบักรินอัลซิดดิก ( عَائِشَةُ بِنْتِ أَبِيْ بَكْرِ )
3. ฮัฟเซาะห์บุตรของอุมัรบุตรอัลค๊อตต๊อบ ( حَفْصَةُ بِنْتِ عُمَرُبن الخَطَّابُ )
4. ซัยหนับบุตรของคุซัยมะห์บุตรอัลฮาริส ( زَيْنَبُ بِنْتِ خُزَيْمَةُ بن حَارِثٌ )
5. อุมมุซะลามะห์ หรือฮินดน บุตรของอุมัยยะห์ ( أُمُّ سَلَمَةٌ وَإِسْمُهَا هِنْدٌ بِنْتِ أُمَيَّةُ )
6. ซัยหนับบุตรของยะห์ชิน ( زَيْنَبْ بِنْتِ جَحْشٍ )
7. ยุวัยรีญะห์บุตรของฮัลฮาริส ( جُوَيْرِيَّةُ بِنْتِ الْحَارِثُ )
8. อุมมุหะบีบะห์หรืออีกนามหนึ่งว่า รอมละห์บุตรอะบีซุฟยาน ( أُمُّ حَبِيْبَةُ وَإِسْمُهَا رَمْلَةُ بِنْتِ أَبِيْ سُفْيَانُ )
9. ซ่อฟียะห์บุตรของหุยัยย์บุตรอัคต๊อบ ( صَفِيْةُ بِنْتِ حُيَيْ بن أَخْطَبُ )
10. มัยมูนะห์บุตรของอัลฮาริส ( مَيْمُوْنَةُ بِنْتِ الْحَارِثُ )
มัยมูนะห์ เป็นหญิงคนสุดท้ายที่ท่านนบี (ศ้อลฯ) ได้ทำการสมรสด้วย
ท่านนบี (ศ้อลฯ) มีบุตรชาย 3 ท่าน และบุตรสาว 4 ท่าน เกิดจากท่านหญิงค่อดียะห์สองท่าน คือ อัลกอซิมและอับดุลเลาะห์ และทั้งสองก็กลับไปสู่อัลลอฮ์ขณะยังเยาว์วัยอยู่ อับดุลเลาะห์มีนามที่เป็นฉายาว่า อัตตอยยิบอัตตอฮิร ความหมายคือ ดี สะอาดบริสุทธิ์ และอีกท่านหนึ่งคือ อิบรอฮีมซึ่งเกิดจากท่านหญิงมารียะห์อัลกิบฏียะห์ ก็กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ขณะยังเยาว์วัยอีกเช่นกัน
บรรดาบุตรสาวของท่านนบี (ศ้อลฯ) คือ
1. ซัยหนับ ( زَيْنَبُ )
2. รุกอยยะห์ ( رُقَيَّةُ )
3. อุมมุกัลซูม ( أُمُّ كَلْثُوْمُ )
4. ฟาฏิมะห์ ( فَاطِمَةُ )
บุตรสาวทั้งหมดเกิดจากท่านหญิงค่อดียะห์ เธอทั้งหลายก็จากโลกดุนยาไปขณะที่ท่านนบียังมีชีวิตอยู่ ยกเว้นท่านหญิงฟาฏิมะห์เพียงท่านเดียวที่จากโลกดุนยาหลังจากท่านนบี (ศ้อลฯ) กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์
อัลลอฮ์ทรงแต่งตั้งให้ท่านเป็นร่อซู้ลโดยประทานวะห์ยู ( وَحْيٌ ) ขณะท่านทำอิบาดะห์ในถ้ำหิเราะอ์ อายะห์แรก ที่อัลลอฮ์ทรงประทานแก่ท่านนบี ในเดือนรอมฏอน คือ
إِقْرَأْ بِاسْمِ رَبِّكَ الَّذِي خَلَقَ : سورة العلق الآية : 1
การประทานอายะห์กุรอ่าน ก็ติดตามเรื่อยมาโดยผ่านยิบรออิ้ล ที่มีนามว่าอับดุลเลาะห์ ท่านนบี (ศ้อลฯ) ทำการเผยแพร่อย่างลับๆ ในระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้น อัลลอฮ์ทรงบัญชาให้ท่านทำการประกาศศาสนาอย่างเปิดเผย เชิญชวน เรียกร้องสู่เตาฮีด คือ ( لا إله إلا الله ) ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ถูกกราบไหว้โดยแท้จริงนอกจากอัลลอฮ์และให้ละทิ้งการสักการะรูปสักการะ ท่านถูกต่อต้านจากผู้อาวุโสและผู้มีบารมีจากตระกูลกุรอยช์และถูกทำร้ายทารุณพร้อมกับกลุ่มซอฮาบะห์ อัลลอฮ์จึงทรงบัญชาใช้ให้กลุ่มซอฮาบะห์อพยพสู่อัลฮะบะชะฮ์ ( اَلْحَبَشَةُ ) คือเอธิโอเปีย ปัจจุบัน ขณะนั้นจำนวนผู้อพยพจากซอฮาบะห์ 83 ท่าน ต่อมาอัลลอฮ์ทรงให้ท่านนบี (ศ้อลฯ) อพยพสู่นครมาดีนะห์ นามว่ายัสริบ ( يَثْرِبُ ) พร้อมกับอะบูบักรินอัดซิดดิ๊ก ในปีแรกแห่งฮิจญเราะห์ ตรงกับปีที่ 622 ค.ศ. ได้เกิดเหตุการณ์อีกมากมายระหว่างท่านนบี (ศ้อลฯ) กับชาวกุรอยช์ ในเรื่องของการต่อสู้และสงครามศาสนา จนกระทั่งอัลลอฮ์ได้ให้ท่านนบี (ศ้อลฯ) และซอฮาบะห์พิชิตนครมักกะห์ได้ ในปีที่ 8 แห่งฮิจญเราะห์ จึงทำให้กลุ่มชนอาหรับทั้งหลายเข้ารับอิสลามและประกาศความเป็นมุสลิมในปีที่ 9-10 แห่งฮิจญเราะห์
และในปีที่ 10 นี้เอง ท่านนบีได้ประกอบพิธีฮัจญ์พร้อมกับเหล่าซอฮาบะห์จำนวนมากกว่า 10,000 คน หลังจากนั้นท่านนบี (ศ้อลฯ) ได้อำลาจากโลกดุนยาไปสู่ ( اَلرَّفِيْقُ اْلأَعْلَى ) ในวันที่ 12 เดือนรอบีอุลเอาวั้ล ปีที่ 11 แห่งฮิจญเราะห์ศักราช ตรงกับวันที่ 8 กรกฏาคม ในปีที่ 632 ค.ศ.
ท่านพี่น้องที่รัก ที่นำเสนอนี้เพื่อเตือนความจำและจุดประกายแก่ลูกหลานมุสลิมว่า เราคืออุมมะห์ของท่านนบี (ศ้อลฯ) ท่านนี้แหละ
أَقُوْلُ قَوْلِىْ هَذَا وَأَسْتَغْفِرُ اللهَ اْلعَظِيْمَ لِيْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ فَأَسْتَغْفِرُوْهُ إِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ
คุตบะห์ฉบับไฟล์ PDF
- ดาวน์โหลดไฟล์คุตบะห์