คุตบะห์
เนื่องในวันอีดิ้ลฟิตริ์ ฮ.ศ. 1439
โดย นายอรุณ บุญชม
ประธานกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร
คุตบะห์ที่ 1
اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ،اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ
اَللهُ أَكْبَرُ كَبِيْرًا ، وَاْلحَمْدُ لِلَّهِ كَثِيْرًا ، وَسُبْحَانَ اللهِ بُكْرَةً وَأَصِيْلاً ، سُبْحَانَ اللهِ وَاْلحَمْدُ لِلَّهِ وَلاَ إِلَهَ إِلاَّ اللهُ وَاللهُ أَكْبَرُ ، اللهُ أكبَرُ وَ لِلَّهِ الْحَمْدُ ، اَلْحَمْدُ لِلَّهِ الْمُتَجَلِّيْ بِرَحْمَتِهِ عَلَى عِبَادِهِ ، اَلْقَرِيْبِ مِنْ أَهْلِ مَحَبتِهِ وَوِدَادِهِ ، اَلْقَامِعِ مَنْ هَامَ فِيْ مَيْدَانِ عُتُوِّهِ وَعِنَادِهِ ، اَلْمُعِيْدِ السُّرُوْرَ عَلَى أَهْلِ اْلإِسْلاَمِ وَاْلإِيْمَانِ ، وَأَشْهَدُ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللهُ يَغْفِرُ الذُّنُوْبَ وَيُعْطِيْ كُلَّ سَائِلٍ مَاسَأَلَ ، وَأَشْهَدُ أَنَّ سَيِّدَنَا مُحَمَّدًا رَسُوْلُ اللهِ رَغِبَ فِي الطَّاعَةِ وَحَذَّرَ مِنَ الْكَسَلِ . اَللَّهُمَّ صَلِّ وَسَلِّمْ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ طَيِّبِ الْقُلُوْبِ وَالْعِلَلِ ، وَعَلىَ آلِهِ وَأَصْحَابِهِ الْمُخْلِصِيْنَ لِلَّهِ فِي الصِّيَامِ وَالْقِيَامِ .
(أَمَّا بَعْدُ : فَياَعِبَادَ اللهِ أُوْصِيْكُمْ وَنَفْسِيْ أَوَّ لاً بِتَقْوَى اللهِ وَطَاعَتِهِ ، وَقَدْ قَالَ اللهُ تَعَالىَ فِيْ كِتَابِهِ : أَعُوْذُ باِللهِ مِنَ الشَّيْطَانِ الرَّجِيْمِ ( كُلُّ مَنْ عَلَيْهَا فَانٍ وَيَبْقَى وَجْهُ رَبِّكَ ذُوا الْجلاَلِ وَاْلاِكْرَامِ
اَللهُ أَكْبَرُ . اَللهُ أَكْبَرُ . اَللهُ أَكْبَرُ . وَ لِلَّهِ الْحَمْد
ท่านพี่น้องศรัทธาชนที่รักของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทุกท่าน
วันนี้เป็นวันสำคัญของศาสนาอิสลาม เป็นวันที่ประชากรมุสลิมทั่วโลก ได้รับความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้า ที่มีโอกาสถือศีลอดตลอดเดือนรอมฎอน ครบถ้วนอย่างสมบูรณ์ และได้มีโอกาสเฉลิมฉลองวันอีดิ้ลฟิตริ์ ด้วยความอิ่มเอิบในกระแสจิต ขอให้เราทั้งหลายได้ขอบพระคุณอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา พระผู้อภิบาลให้มากที่สุด การสำนึกในพระคุณของอัลลฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลานั้น เป็นพันธกิจของเหล่าชนผู้มีศรัทธาที่พึงสังวรและปฏิบัติด้วยการ “ตั๊กวา” คือ เชื่อมั่นยำเกรงต่อพระองค์
การตั๊กวาต่ออัลลอฮ์ มนุษย์ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ เพียงแต่ให้เขาปฏิบัติ 2 เรื่องพร้อมๆ กัน คือ
- اِمْتِثَالُ الْاَوَامِرْ ปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ ทรงสั่งใช้ให้ครบถ้วน
- وَاجْتِنَابُ النَّوَاهِيْ ห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ ทรงสั่งห้ามโดยสิ้นเชิง
เมื่อผู้ใดปฏิบัติได้สมบูรณ์ทั้งสองเรื่องดังกล่าว พระองค์อัลลอฮ์ ก็จะยกย่องให้เกียรติแก่ผู้นั้น ดังอัลกุรอานคัมภีร์ของพระองค์ได้บัญญัติไว้ในซูเราะห์ (บท) อัลหุญุร๊อต อายะห์ (โองการ) ที่ 13 ความว่า
إِنَّ أَكْرَمَكُمْ عِندَ اللَّهِ أَتْقَاكُمْ
แท้จริง ผู้ที่มีเกียรติยิ่งในหมู่ของพวกท่าน ในทัศนะของอัลลฮ์ คือ ผู้ที่มีการตั๊กวามากกว่า
การตั๊กวาหรือเชื่อมั่นยำเกรงต่ออัลลฮ์นั้น ต้องปฏิบัติด้วยความขะมักเขม้นจริงจัง อย่างสุดความสามารถ เพราะอัลกุรอานคัมภีร์ของอัลลอฮ์ ได้บัญญัติไว้ในซูเราะห์ (บท) อาละอิมรอน อายะห์ (โองการ) ที่ 102 ความว่า
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ اتَّقُواْ اللَّهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلاَ تَمُوتُنَّ إِلاَّ وَأَنتُم مُّسْلِمُونَ
ผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงเชื่อมั่นยำเกรงต่ออัลลฮ์อย่างแท้จริงเถิด และพวกท่านจงอย่าตายเป็นอันขาด จนกว่าจะมีสถานะเป็นผู้นอบน้อมต่อพระองค์เท่านั้น
اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، وَ لِلَّهِ الْحَمْد
พี่น้องผู้ร่วมศรัทธาที่รักและเคารพ
เมื่อเรามีการตั๊กวาต่อพระองค์อัลลอฮ์แล้ว เราจะต้องยอมศิโรราบต่อพระองค์ ด้วยการปฏิบัติอิบาดะห์ คือ การกราบต่อพระองค์ด้วยการสำรวม อันเป็นการแสดงออกถึงความภักดี ที่เรามีต่อพระองค์โดยบริสุทธิ์ใจ ซึ่งการอิบาดะห์ต่ออัลลอฮ์นั้น มี 3 ประเภท คือ
- ใช้เรือนร่างหรือสรีระของเราภักดีต่อพระองค์ เช่น การประกาศตนรับอิสลามเป็นสรณะ การปฏิบัติละหมาดและการถือศีลอด
- การใช้ทรัพย์สินที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ ด้วยการบริจาคเป็นการภักดีต่อพระองค์ คือ การจ่ายซะกาต
- ใช้เรือนร่างหรือสรีระของเราผนวกกับทรัพย์สิน ในการภักดีต่อพระองค์ คือ การบำเพ็ญฮัจย์
การทำอิบาดะห์ดังกล่าว เกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมนุษย์ผู้มีสติปัญญา มีความสำนึกในคำบัญชาของอัลลอฮ์ ดังที่บัญญัติไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานซูเราะห์ (บท) อัซซารียาต อายะห์ (โองการ) ที่ 56
وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنْسَ إِلاَّ لِيَعْبُدُونِ
และเรา (หมายถึงอัลลอฮ์) มิได้สร้างญินและมนุษย์ขึ้นมา เพื่อเป้าหมายอื่นใด เว้นแต่เพื่อในที่สุดพวกเราจะได้อิบาดะห์ คือ ปฏิบัติการภักดีต่อเรา
اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، وَ لِلَّهِ الْحَمْد
ท่านพี่น้องที่รักและเคารพ
พระองค์อัลลอฮ์ พระผู้อภิบาลนั้น ทรงมีเมตตา และประทานความรักแก่มวลมนุษยชาติ มากกว่าสรรพสิ่งอื่นใด ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น ดังพระดำรัสแห่งพระองค์ในคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะห์ (บท) อัลอิศรออ์ อายะห์ (โองการ) ที่ 70 ความว่า
وَلَقَدْ كَرَّمْنَا بَنِي آدَمَ
และโดยแท้จริง เรา (หมายถึงอัลลอฮ์) ได้ให้เกียรติแก่ลูกหลานของอาดัม (คือมวลมนุษยชาติ) มากกว่าสรรพสิ่งต่างๆ
นอกจากนั้น พระองค์อัลลออ์ ได้ทรงประทานความสะดวกต่างๆ สำหรับมนุษย์ ในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทั้งมวลของพระองค์ ดังคัมภีร์อัลกุรอานได้บัญญัติไว้ในซูเราะห์ (บท) อัลบะเกาะเราะห์ อายะห์ (โองการ) ที่ 29 ความว่า
هُوَ الَّذِي خَلَقَ لَكُم مَّا فِي الْأَرْضِ جَمِيْعًا
พระองค์คือผู้ทรงสร้างสิ่งทั้งมวลในโลกไว้สำหรับพวกท่าน
นอกจากนั้น พระองค์ทรงประสงค์ให้มนุษย์ เป็นผู้พัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรือง ในมาตุภูมิ ดังคัมภีร์อัลกรุอานได้บัญญัติไว้ในซูเราะห์ (บท) ฮูด อายะห์ (โองการ) ที่ 61 ความว่า
هُوَ أَنْشَأَكُم مِّنَ الْأَرْضِ وَاسْتَعْمَرَكُمْ فِيْهَا
พระองค์อัลลออ์ ทรงบังเกิดพวกท่านจากดิน และให้พวกท่านได้พำนักอาศัยอยู่ เพื่อสร้างประโยชน์ในหน้าแผ่นดินนั้น
จากหลักการและเหตุผล ดังที่ยกมาทั้งหมด “มุสลิม” คือ ผู้ที่โชคดีที่สุด เพราะเป็นผู้ยอมรับหลักการอิสลาม จึงได้ทราบเจตนารมณ์ และความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า อย่างเข้าถึงมากกว่าคนอื่น ที่ยังไม่รับหลักการอิสลาม แต่ที่ต้องเดินหน้าเติมเต็มต่อไป คือ เมื่อทราบแล้ว จะต้อง “ปฏิบัติจริง” ตามหลักการโดยดุษฎี
ในปัจจุบัน พวกเราทุกคน มีพันธกิจหรือหน้าที่ ที่พึงรักษาอย่างเคร่งครัด หลากหลายหน้าที่ และแตกต่างกันตามปัจเจกบุคคล แต่ทุกคนมีหน้าที่ ซึ่งจัดเป็นหมวดหมู่อยู่ 4 ด้าน คือ
- หน้าที่ซึ่งต้องปฏิบัติต่อพระองค์อัลลอฮ์ พระผู้อภิบาล ผู้มีพระคุณเกินกว่าจะพรรณนา
- หน้าที่ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อตนเองและครอบครัว
- หน้าที่ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อสังคมมุสลิม ผู้ร่วมศรัทธาเสมือนเป็นพี่น้องร่วมอุทร
- หน้าที่ซึ่งต้องปฏิบัติต่อสังคมเพื่อนร่วมโลก ที่ต่างศรัทธาและอุดมการณ์ ที่เราจะต้องอยู่ร่วมกันด้วยความให้เกียรติ เข้าใจกัน และสมานฉันท์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัลลอฮ์มีพระประสงค์ สร้างเราให้เกิดขึ้นในสังคมนี้ ซึ่งเป็นประเทศชาติที่ให้สิทธิเสรีภาพ แก่ประชาชนในเรื่อง “ศาสนา” มากกว่าทุกประเทศในโลก เราจึงจำเป็นต้องร่วมกันสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น แก่บุคคลทุกฝ่าย เพราะนั่นคือ อุดมการณ์และคำสอนของอิสลาม ดังมีคำสอนหนึ่ง พระองค์อัลลอฮ์ ได้ทรงบัญชาไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะห์ (บท) อัลอันอาม อายะห์ (โองการ) ที่ 108 ความว่า
وَلاَ تَسُبُّواْ الَّذِينَ يَدْعُونَ مِن دُونِ اللَّهِ فَيَسُبُّواْ اللَّهَ عَدْوًا بِغَيْرِ عِلْمٍ
และปวงผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) พวกท่านอย่าด่าหรือตำหนิ บรรดาสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้น เคารพบูชา (นอกจากอัลลอฮ์) จะได้ไม่เป็นเหตุให้พวกเหล่านั้น หันมาด่าหรือตำหนิอัลลอฮ์ เหมือนเป็นอย่างไม่เป็นธรรมและโดยความโง่เขลา
พระดำรัสแห่งพระองค์อัลลฮ์นั้น สัจจริงตลอดกาล
ในโอกาสวันสำคัญแห่งอีดิ้ลฟิตริ์ในครั้งนี้ ขอให้เป็นวันแห่งการทบทวนบทบาทและพฤติกรรมของพวกเราทุกคน หากมีสิ่งใดผิดพลาดเกิดขึ้นในวิถีชีวิตของเรา ขอให้ได้เตาบะห์สารภาพผิดและขออภัยต่ออัลลอฮ์พระผู้อภิบาล พร้อมทั้ง U-TERN (ยู-เทิร์น) ย้อนหวนกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องโดยเร็ว แท้จริงอัลลอฮ์พระผู้ทรงกรุณา พร้อมเสมอที่จะประทานการอภัย ให้แก่บ่าวผู้สำนึกผิดและมีสติอยู่เสมอ ขอดุอาอ์ให้ทุกท่าน ได้อยู่ในความคุ้มครองของพระเจ้าโดยทั่วกัน
بَارَكَ اللهُ لِيْ وَلَكُمْ فِي الْقُرْآنِ الْكَرِيْمِ وَ نَفَعَنِي اللهُ وَإِياَّكُمْ بِمَا فِيْهِ مِنَ اْلآياَتِ وَالذِّكْرِ الْحَكِيْمِ أَقُوْلُ قَوْلِيْ هَذَا وَأَسْتَغْفِرُ اللهَ لِيْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمٍيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ وَالْمُؤْمِنِيْنَ وَالْمُؤْمِنَاتِ فَاسْتَغْفِرُوْهُ إِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ .
คุตบะห์ที่ 2
اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ ، اَللهُ أَكْبَرُ
اللهُ أَكْبَرُ ، اللهُ أَكْبَرُ ، لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللهُ ، اللهُ أَكْبَرُ ، اللهُ أَكْبَرُ . وَ لِلَّهِ الْحَمْدُ ، اَلْحَمْدُ لِلَّهِ مُعِيْدِ الْجَمْعِ وَاْلأَعْيَادِ ، وَمُبِيْدِ اْلأُمَمِ وَاْلأَجْنَادِ ، وَجَامِعِ النَّاسِ لِيَوْمٍ لاَرَيْبَ فِيْهِ إِنَّ اللهَ لاَ يُخْلِفُ الْمِيْعَادَ ، وَ أَشْهَدُ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللهُ وَحْدَهُ لاَشَرِيْكَ لَهْ وَلاَ نِدَّ وَلاَ مُضَا دَ ، وَأَشْهَدُ أَنَّ مُحَمَّدًا عَبْدُهُ وَرَسُوْلُهُ الْمُفَضَّلُ عَلَى جَمِيْعِ الْعِبَادِ ، صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَعَلَى آلِهِ وَأَصْحَابِهِ وَمَنْ تَبِعَهُمْ بِإِحْسَانٍ إِلَى يَوْمِ التَّنَادِ ، وَسَلَّمَ تَسْلِيْمًا
أَمَّا بَعْدُ : فَيَا أَيُّهَا النَّاسُ ، إِتَّقُوا اللهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلاَتَمُوْتُنَّ إِلاَّ وَأَنْتُمْ مُسْلِمُوْنَ، أَلاَ وَصَلُّوْا عَلَى خَيْرِ الْبَرِيَّةِ أَجْمَعِيْنَ ، وَرَسُوْلِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ ، نَبِيِّ الْهُدَى وَالرَّسُوْلِ الْمُجْتَبَى ، فَقَدْ أَمَرَكُمْ مَوْلاَكُمْ بِذَلِكَ فِيْ مُحْكَمِ كِتَابِهِ ، إِنَّ اللهَ وَمَلاَئِكَتَهُ يُصَلُّوْنَ عَلَى النَّبِىِّ يَا أَيُّهَا الَّذِيْنَ آمَنُوْا صَلُّوْا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوْا تَسْلِيْمًا ، اَللَّهُمَّ اغْفِرْ لِلْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ وَالْمُؤْمِنِيْنَ وَالْمُؤْمِنَاتِ اْلأَحْياَءِ مِنْهُمْ وَاْلأَمْوَاتِ بِرَحْمَتِكَ يَا أَرْحَمَ الرَّاحِمِيْنَ ، أَعَادَ اللهُ عَلَيْنَا مِنْ بَرَكَاتِ هَذَا الْعِيْدِ ، وَجَعَلَنَا فِي الْقِيَامَةِ مِنَ اْلآمِنِيْنَ ، وَحَشَرَنَا تَحْتَ لِوَاءِ سَيِّدِ الْمُرْسَلِيْنَ ، عَلَيْهِ الصَّلاَةُ مِنْ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ ، اَللَّهُمَّ اجْعَلْ عِيْدَنَا فَوْزًا بِرِضَاكَ ياَ أَرْحَمَ الرَّاحِمِيْنَ ، اَللَّهُمَّ اجْعَلْ رَمَضَانَ رَاحِلاً بِذُنُوْبِنَا قَدْغَفَرْتَ فِيْهِ سَيِّئَاتِنَا ، وَرَفَعْتَ فِيْهِ دَرَجَاتِنَا ، رَبَّنَا تَقَبَّلْ مِنَّا إِنَّكَ أَنْتَ السَّمِيْعُ الْعَلِيْمُ ، وَتُبْ عَلَيْنَا إِنَّكَ أَنْتَ التَّوَّابُ الرَّحِيْمُ ، وَاجْعَلْنَا مِنَ الَّذِيْنَ تَجْرِيْ مِنْ تَحْتِهِمُ اْلأَنْهَارُ فِيْ جَنَّاتِ النَّعِيْمِ . دَعْوَاهُمْ فِيْهَا سُبْحَانَكَ اللَّهُمَّ وَتَحِيَّتُهُمْ فِيْهَا سَلاَمْ ، وَآخِرُ دَعْوَاهُمْ أَنِ الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ اْلعَالَمِيْنَ .
—————————-